ไดร์เป่าผมเป็นเครื่องไฟฟ้าที่ช่วยให้ผมสวยและแห้งได้เร็ว สามารถใช้ร่วมกับหวีหรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อตกแต่งทรงผมได้อย่างตามใจ แต่ควรเลือกไดร์เป่าผมที่มีความปลอดภัยสูงและถนอมผมไม่ให้แห้งเสียด้วย ดังนั้นเราควรสำรวจว่าเส้นผมของเราเหมาะกับไดร์เป่าผมแบบไหน และเลือกซื้อไดร์เป่าผมอย่างไรให้เหมาะสม นี่คือสิ่งที่ควรคำนึงก่อนซื้อไดร์เป่าผม
วิธีเลือกซื้อไดร์เป่าผม
การเลือกซื้อไดร์เป่าผมควรพิจารณากำลังไฟของไดร์เป่าผมที่เหมาะสมกับลักษณะของเส้นผม เช่น ผมหนา, ผมบาง, ผมมัน หรือผมเป็นประเภทอื่นๆ ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1,200 วัตต์เหมาะสำหรับคนผมเส้นเล็กและคนผมบาง ไดร์เป่าผมกำลังไฟ 1,300 – 1,800 วัตต์เหมาะสำหรับคนผมส่วนใหญ่ ส่วนไดร์เป่าผมที่มีกำลังไฟสูงกว่า 1,800 วัตต์เหมาะสำหรับคนผมเส้นใหญ่ ผมหนา หรือผมหยิก
ในการเลือกซื้อควรพิจารณาฟังก์ชั่นของไดร์เป่าผมที่สามารถปรับแต่งความร้อนและแรงของลมได้ เช่น ปุ่มควบคุมที่ใช้ง่ายและฟังก์ชั่นลมเย็นที่ช่วยในการเซ็ตทรงผมต่างๆ น้ำหนักและขนาดของไดร์เป่าผมควรเบาและขนาดเล็กพอที่จะใช้งานได้สะดวกโดยเฉพาะสำหรับสาวผมยาวที่ต้องใช้เวลาในการเป่าผม น้ำหนักของไดร์เป่าผมที่เหมาะสมควรอยู่ระหว่าง 400-700 กรัม ถ้าคุณต้องการจัดแต่งทรงผมด้วยไดร์เป่าผมควรเลือกที่มีอุปกรณ์เสริม เช่น หัวไดร์เป่าผมรูปแบบต่างๆ
10 ไดร์เป่าผมยี่ห้อไหนดี
ไดร์เป่าผมที่จัดอันดับนำมาเสนอในวันนี้พร้อมรายละเอียดสั้นๆ กระชับมา
1.ไดร์เป่าผม Dyson Supersonic
- มอเตอร์ความเร็วสูง
- น้ำหนักเบา
- หัวเป่าแบบถอดเปลี่ยนได้ 5 แบบ
- กำลังไฟ 1,600 วัตต์
- ระบบควบคุมความร้อนอัจฉริยะ
- ข้อดี: ดีไซน์สวย, น้ำหนักเบา, เสียงเงียบ, ปุ่มกดต่างๆที่อยู่ตรงด้ามจับด้านหลัง, ข้อเสีย: ราคาสูง, ปุ่มกดต่างๆอยู่ด้านหลังไม่ค่อนข้างไม่สะดวก
2.ไดร์เป่าผม Philips Hair Dryer Prestige SenselQ
- รักษาสุขภาพเส้นผมด้วยเซ็นเซอร์อัจฉริยะ SenselQ
- วัดอุณหภูมิของเส้นผม
- กำลังไฟ 1,800 วัตต์
- ข้อดี: ดีไซน์สวยหรู, เสียงมอเตอร์เบา, ให้ลมที่นุ่มนวล, ข้อเสีย: ลมนิ่ม, ช่องลมเล็กไม่ค่อยสมกับตัวเครื่อง
3.ไดร์เป่าผม LE’SASHA Airmax Smart Hair Dryer
- กำลังไฟ 2,000 วัตต์
- Cool Shot สำหรับเป่าถนอมหนังศีรษะและล็อคผมให้อยู่ทรง
- ข้อดี: ลมแรง, เป่าผมได้แห้งเร็ว, ราคาถูก, ข้อเสีย: ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนักและใหญ่
4.ไดร์เป่าผม CKL 3900
- กำลังไฟเป่าผมสูงถึง 2000W
- ข้อดี: ลมแรง, เป่าผมได้แห้งเร็ว, ราคาถูก, ข้อเสีย: วัสดุเป็นพลาสติก, เสียงมอเตอร์ดัง
5.ไดร์เป่าผม Xiaomi Portable Water Ion Electric Hair Dryer
- กระทัดรัด, พกพาสะดวก
- ระบบ NTC ควบคุมไหลเวียนของอากาศร้อนและเย็น
- ข้อดี: ดีไซน์ทันสมัย, ที่จับพับเก็บได้, โหมดลมแต่ละโหมดใช้งานได้จริง, ข้อเสีย: ลมเบาต้องอาศัยลมร้อนผมถึงจะแห้งเร็ว
6.ไดร์เป่าผม Panasonic nanoe™ Hair Dryer
- nanoe™ ช่วยเป่าหนังศีรษะอย่างอ่อนโยน
- กำลังไฟ 1800W
- ข้อดี: ดีไซน์ทันสมัย, nanoe™ช่วยปกป้องหนังศีรษะและเส้นผมให้ชุ่มชื้น, เทคโนโลยีประจุไอออนลบช่วยบำรุงเส้นผม, ข้อเสีย:ช่องลมเล็ก, เซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิทำให้ความร้อนไม่สม่ำเสมอ
7.ไดร์เป่าผม CoolAStyler RCY-2000
- ประจุไอออนลบ 10 ล้านตัว
- เป่าผมได้แห้งเร็ว
- ข้อดี: ดีไซน์ทันสมัย, ที่จับพับเก็บได้, เป่าผมได้แห้งเร็ว, ข้อเสีย: เสียงมอเตอร์ค่อนข้างดัง
8.ไดร์เป่าผม IWACHI GY-2100
- ลมคงที่
- อุณหภูมิคงตัว
- กว้าง 23 x 19 x 5.5 เซนติเมตร
- ชิปอัจฉริยะกระจายความร้อนและให้อุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอที่ 57 องศา
- ข้อดี: ลมแรงแต่น้ำหนักเบา, อุณหภูมิคงตัว, ข้อเสีย: กำลังไฟไม่ได้ระบุ, ข้อมือของเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนักและใหญ่
9.ไดร์เป่าผม Super V SU 3600
- ลมแรงแห้งภายในไม่กี่นาที
- กว้าง 22 x 22 x 10 เซนติเมตร
- ข้อดี: ลมแรงและกระจายตัวได้ดีสุดๆ, เป่าผมได้แห้งเร็ว, ราคาคุ้มค่า, ข้อเสีย: ตัวเครื่องค่อนข้างมีน้ำหนักและใหญ่
10.ไดร์เป่าผม Create Ion Yure Dora Moving Dry
- ผมแห้งตั้งแต่โคนจรดปลายโดยไม่ต้องเสียแรงสะบัดข้อมือ
- กว้าง 23.5 x 21 x 10 เซนติเมตร
- มีไอออนช่วยรักษาสมดุลน้ำในเส้นผม
- ข้อดี: ดีไซน์ทันสมัย, ไอออนช่วยรักษาสมดุลน้ำในเส้นผม, ข้อเสีย: กำลังไฟไม่ได้ระบุ, เสียงมอเตอร์ไม่ได้ระบุ
หวังว่าข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อไดร์เป่าผมได้อย่างเหมาะสมค่ะ!
